ประวัติวัด

วัดป่าอนาลโยถือว่าเป็นวัดไทยสายธรรมยุตติกนิกาย ที่ที่ชื่อว่าเก่าแก่ของประเทศเยอรมัน โดยการบุกเบิกโดยท่านพระอาจารย์ชัชวาลย์ สุภัทโท ซึ่งปัจจุบันก็คือเจ้าอาวาสแห่งนี้ โดยเริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้เดินทางมาประเทศเยอรมันเพื่อเยี่ยมโยมพี่สาวท่านที่เมือง Hiltersdorf เขตเมือง Nürnberg บ้านที่อยู่เป็นเขตธรรมชาติ มีป่า ทุ่งนา สวยงาม เป็นที่ประทับใจ…มาครั้งนี้พบคนไทยไม่มาก อยู่ได้ ๒๐ วันก็กลับไปจำพรรษา๗ ที่วัดถ้ำกลองเพลจ.อุดรธานี ปี ๒๕๓๔ จำพรรษา ๘ ที่ วัดผาธรรมนิมิต อ.เมือง จ.พะเยา ออกพรรษาแล้ว ได้รับนิมนต์มาที่ นครเบอร์ลิน ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในเวลานั้นยังไม่มีสมาคมใดที่จะคิดก่อตั้งวัด เริ่มมีคณะพระภิกษุผ่านมาเยือนหลายคณะ จึงมีคหบดีคือ คุณโยมศศิธร นครศรี ถวายที่พักคือบ้านหนึ่งหลัง ราวเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๔ ทดลองอยู่ ๕ เดือน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ การขอวีซ่าสมัยนั้นยากมาก เพราะทางการเยอรมันกับทางผู้นิมนต์ยังไม่มีความรู้ความชำนาญ เรื่องการขอต่อวีซ่า ปี ๒๕๓๕ จำพรรษา ๙ ที่ นครฮัมบวร์ก Beisestr.23 Hamburg ได้รับความเมตตาจากพระพรหมมุนี ( วิชมัย ปุญญาราโม ) วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร ให้ไปฉลองศรัทธา ชาวเมือง ดรางซเต็คท์ เรื่อง การสร้างวัดป่าพรหมมุนี แต่ไม่สามารถตกลงกันได้จึงย้ายมาจำพรรษาที่สมาคมสังฆะ(Sangha ) ของชาว เยอรมัน ที่นครฮัมบวร์ก โดยมีพระร่วมจำพรรษาอีก ๒ รูปคือ พระสมชาย กนฺตจาโร และพระแสงจันทร์ โกวิทฺสาโร มีสมาคมพุทธไทยฮัมบวร์ก ให้ความสนับสนุน ออกพรรษาแล้วไปเยี่ยมวัดต่างๆ ในสายหลวงพ่อชา สุภทฺโท ที่ประเทศสหราชอาณาจักรอังกฤษ ปี ๒๕๓๖ จำพรรษา ๑๐ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ บ้านสวน Dortmund Kley จากอังกฤษก่อนกลับเมืองไทย แวะเยี่ยมชาวเมืองดอร์ตมูนด์ที่สนใจการสร้างวัด จึงเริ่มตั้งสมาคมพุทธในแคว้นนอร์ทไรน์เวสฟาเล่นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยใช้ชื่อBuddhistischer Verein NRW e.V. เลขทะเบียนสมาคมที่ VR.4416 เมืองดอร์ตมูนด์ จำพรรษา ๓ เดือนในบ้านสวนก็มีปัญหาเรื่องการต่อระยะยาววีซ่าตามเดิม จึงต้องกลับประเทศไทยปี ๒๕๓๗ จำพรรษา ๑๑ ที่ เมือง คาร์สต จากเมือง ดอร์ตมูนด์ ขัดข้องเรื่องสถานที่จำพรรษาและเรื่องการขอต่อวีซ่า จึงย้ายมาจำที่เมือง คารส์ต Karrst โดยจำพรรษาในรถ Wohnwagen บริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนา ปี ๒๕๓๘ จำพรรษา ๑๒ ที่ วัดรัตนวนาราม จ.พะเยา ครบ ๒ ปีต้องเลือกประธานใหม่ ย้ายสมาคมฯจากเมือง ดอร์ตมูนด์ ไปยังเมือง มึนชิงกลัด-บาค Mönchengladbach โดยประธานใหม่ ยิ่งไม่มีความรู้ เรื่องการขอวีซ่า ในพรรษานี้เลยไม่ได้รับนิมนต์มาเยอรมัน ออกพรรษาได้รับนิมนต์ชาวบ้าน ห้วยไคร้ อ.จุน จ.พะเยา เรื่อง การสร้างวัดที่นั่น ปี ๒๕๓๙ จำพรรษา ๑๓ ที่ วัดดอยห้วยไคร้ อ.จุน จ.พะเยา กลับมาเยอรมันด้วยวีซ่า ๓ เดือน เลือกประธานใหม่ย้ายกลับมาเมือง ดอร์ตมูนด์ตามเดิม แต่ไม่สามารถจำพรรษาได้จึงกลับไปจำพรรษาที่ จ.พะเยา ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างวัดดอยห้วยไคร้ มีกุฎีวิหาร ศาลาโรงฉัน ตามกำลังเป็นที่เรียบร้อยดี ปี ๒๕๔๐ จำพรรษา ๑๔ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ กระท่อมในป่า Branheidestr18, 44388 Dortmund กลับมาจำพรรษาในเยอรมัน จึงได้ทราบว่าการจะขอต่อวีซ่าได้นั้นจะต้องมีที่อยู่อันมั่นคงเป็นของตัว เอง เพราะการที่พระภิกษุหรือบุคคลที่ จะอยู่ได้ต้องมีผู้รับรอง รายได้ที่มั่นคง เพื่อจะได้ไม่รบกวนค่าใช้จ่ายของทางการเยอรมัน ปี ๒๕๔๑ จำพรรษา ๑๕ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ Rebhuhnweg 14, 44225 Dortmund วัดป่าอนาลโย จึงเป็นชื่อที่ใช้เริ่มที่นี่ จากการที่เก็บสะสมปัจจัยไว้ในแต่ละครั้งที่มา จนพอจะมีฐานะจะเช่าบ้านที่เหมาะสมได้ เพราะถ้าไม่รายได้ไม่มั่นคง เจ้าของบ้านคงไม่ สนใจให้เช่า การหาสถานที่อยู่อันเหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ออกจากกระท่อมในป่ามาอยู่บ้าน เพื่อให้ได้วีซ่าระยะยาว จะสะดวกในการหาที่เพื่อสร้างวัดต่อไป ปี ๒๕๔๒ จำพรรษา ๑๖ ที่ จ.วัดดอยห้วยไคร้ อ.จุน จ.พะเยา เมื่อมีโอกาสได้นานและพอจะรู้วิธีการสร้างวัดในเยอรมัน จึงช่วยเหลือเพื่อนพระภิกษุที่ต้องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเยอรมัน โดยนิมนต์ผ่านวัดป่าอนาลโย แล้วส่งไปประจำเมืองต่างๆ เช่น เมือง ฮัมบวร์ก เมือง กีเซ่น เป็นต้น. ในพรรษานี้ หลังจากที่นิมนต์พระธรรมทูตมาจำ พรรษา ที่วัดป่าอนาลโย เมืองดอร์ตมูนด์ ๒ รูปคือ พระบุญธรรม กิตฺติญาโณ , พระนิพนธ์ ญาณวโร. วัดป่าอตุโล( วัดพุทธบารมี ) เมือง ฮัมบวร์ก ๒ รูปคือ พระครูคุณสารโสภณ,พระมหาวิรัตน์ สุเมธโก. วัดป่าภูริทัตตาราม เมืองกีเซ่น ๑ รูปคือ พระสำรอง ภทฺทิโย ส่วนพระชัชวาลย์ สุภทฺโท กลับไปจำพรรษา ที่ จ.พะเยา วัดดอยห้วยไคร้ อ.จุน จ.พะเยา ปี ๒๕๔๓ จำพรรษา ๑๗ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ Semerteichstr.26 a, 44141Dortmund ๒๕ เมษายน ได้รับเมตตาจากพระมหาเถรทั้งหลาย ให้เป็นเจ้าภาพในการจัดมีการประชุมสงฆ์ (ธ) ขึ้นเป็นครั้งแรกในสหภาพยุโรป หลัง จากนั้น เจ้าของบ้านไม่ต่อสัญญาเช่าให้ เนื่องจากต้องการใช้เป็นที่พักของลูกสาว ประกอบกับกำลังได้สถานที่ที่ทางเมืองจะให้สร้างวัด จึงย้ายมาจำพรรษาที่ Semerteichstr.26 a เป็นการชั่วคราว ปี ๒๕๔๔ จำพรรษา ๑๘ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ Semerteichstr.26 a, 44141Dortmund ทางเมืองมีหนังสือว่าสถานที่จะให้ก่อสร้างนั้นหลังจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่สามารถใช้เป็นที่พักอาศัยได้ เนื่องจากมีสารพิษอยู่ใต้ดิน จึงต้อง หาสถานที่ใหม่ ปี ๒๕๔๕ จำพรรษา ๑๙ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ Semerteichstr.26 a, 44141Dortmund ซื้อที่ดิน ที่ เมือง วินเด็ค Im Boden 13, 51570 Windeck Langenberg สำหรับสร้างวัด ๒ แปลง ประมาณ ๑ ไร่ และที่ดินสำหรับบริเวณสวน ๑ แปลง ๒ ไร่ รวมที่ดินทั้งหมดประมาณ ๓ ไร่ ได้สถาปนิกช่วยในการออกแบบ และดูแลการก่อสร้างให้ฟรี ปี ๒๕๔๖ จำพรรษา ๒๐ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๖ ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ศาลาเอนกประสงค์ วัดป่าอนาลโย ปี ๒๕๔๗ จำพรรษา ๒๑ ที่ เมือง ดอร์ตมูนด์ Semerteichstr.26 a, 44141Dortmund ปลายพรรษา เริ่มการก่อสร้างฐานรากตัวอาคาร ๒ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๒๘๐ ตรม. ปี ๒๔๔๘ จำพรรษา ๒๒ ที่ เมือง วินเด็ก Im Boden 13, 51570 Windeck Langenberg มาจำพรรษาที่วัดบนเขาเพื่อจะได้ดูแล ควบคุมการก่อสร้างให้เรียบร้อย ปี ๒๕๔๙ จำพรรษา ๒๓ ที่ เมือง วินเด็ก Im Boden 13, 51570 Windeck Langenberg ปี ๒๕๕๐ จำพรรษา ๒๔ ที่ เมือง วินเด็ก Im Boden 13, 51570 Windeck Langenberg ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๐ พระธรรมเมธาจารย์ (อิ่ม อรินฺทโม ) วัดโสมนัสราชวรวิหาร ให้ความอนุเคราะห์ เรื่องการจัดงานผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิต ซึ่งมีขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีพระพรหมมุนี ( จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ) วัดบวรนิเวศ เป็นประธาน ปัจจุบันคือ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการสร้างวัดไทยในประเทศนี้ เริ่มและสำเร็จ โดย พระพรหมมุนี